ระบบ Secondary System คืออะไร ? ทำไมใช้แทนการทำ Overflow ได้ 

หลายท่านคงทราบกันดีว่า Overflow หรือช่องระบายน้ำฉุกเฉิน, ช่องน้ำล้น คือช่องที่เอาไว้ช่วยระบายน้ำออกจากรางน้ำฝนก่อนที่จะเกิดน้ำล้นเข้าสู่อาคาร มีใช้ในหลายที่นอกเหนือจากรางน้ำฝน ไม่ว่าจะเป็นตามระเบียง ดาดฟ้า หรือแม้กระทั่งในสุขภัณฑ์ภายในบ้าน ประเภทอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ จะมีรูอยู่บริเวณใกล้ขอบอ่างด้านบน มีไว้เผื่อกรณีอ่างน้ำตัน จะช่วยระบายน้ำออกก่อนที่น้ำจะสูงถึงขอบอ่าง ป้องกันน้ำล้นไหลลงพื้น

ในระบบระบายน้ำฝนก็เช่นกัน Overflow ถือว่ามีความสำคัญต่อระบบระบายน้ำฝนเป็นอย่างมาก มีส่วนช่วยเพิ่มความปลอดภัย ช่วยป้องกันหรือลดความเสีย หายที่อาจเกิดจากน้ำล้นรางไหลเข้าสู่อาคาร ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินได้ หลักการเบื้องต้นในการทำ Overflow จะติดตั้งสูงขึ้นจากท้องราง โดยความสูงของ Overflow ขึ้นอยู่กับขนาดรางน้ำฝน และความสูงของน้ำ

เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศ มีฝนตกหนัก และปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม อยากให้ทุกท่านลองนึกภาพตามว่า หากมีขยะ หรือใบไม้สะสมในรางน้ำฝน ทำให้หัวระบายน้ำฝนอุดตันไม่สามารถระบายน้ำฝนได้ปกติ เมื่อมีฝนตกหนัก น้ำในรางน้ำฝนไม่สามารถระบายออกได้ทัน สะสมในรางน้ำฝนสูงขึ้นเรื่อยๆ การที่มี Overflow จะช่วยระบายน้ำออกก่อนที่น้ำฝนจะล้นรางไหลเข้าสู่อาคาร และยังช่วยให้สามารถสังเกตเห็นว่าระบบระบายน้ำฝนทำงานผิดปกติ ทำให้เข้าไปแก้ไขได้ทัน หรือหากเราออกแบบ Overflow ได้อย่างเพียงพอ ก็จะทำให้น้ำฝนไหลออกที่ Overflow แทนที่จะล้นเข้าสู่อาคารได้

ดังนั้น การทำ Overflow ที่รางน้ำฝน จึงเรียกได้ว่าเป็นเหมือนการเพิ่มระบบ Safety ให้กับโครงการ แต่บางโครงการก็ไม่สามารถทำ Overflow ที่รางน้ำฝนได้ เนื่องจากติดข้อจำกัดเรื่องความสวยงามของอาคาร หรือรางน้ำฝนอยู่ติดกับอาคารใกล้เคียง จึงไม่สามารถเจาะช่องทำ Overflow ได้